top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนnangfah xinwen

3 ชีวิตร้องทุกข์ 8 ปี ไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องอาศัยไฟฉายประทังชีวิตหลังฟ้ามืด

หญิงม่ายวัย 48 อาศัยบ้านร้าง ร้องทุกข์ไม่มีไฟฟ้าใช้มานาน 8 ปี ต้องใช้ไฟฉายประทังชีวิต กราบวิงวอนผู้ที่เกี่ยวข้องยื่นมือช่วยเหลือ ซ้ำเคยมีหน่วยงานในจังหวัดเข้ามารับปากจะช่วยแต่ก็เงียบหาย...


วันที่ 5 มี.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับเรื่องร้องทุกข์ของครอบครัวรันทดไม่มีไฟฟ้าใช้ จึงรุดไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ บ้านเลขที่ 170 ม.1 ต.สุโสะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง พบเป็นบ้านของนางวินาณ์ สิงห์อินทร์ อายุ 48 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่าตนไม่มีไฟฟ้าใช้มานานกว่า 8 ปี ทั้งยังต้องเลี้ยงลูกชายวัย 14 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.2 และหลานสาววัย 7 ขวบ ชั้น ป.1 เพียงลำพังด้วยความยากลำบาก รายได้ภายในบ้านมาจากการรับจ้างกรีดยางเพียงวันละ 100 กว่าบาท ไม่เพียงพอต่อภาระใช้จ่าย เพราะถ้าหากทางครอบครัวต้องใช้ไฟฟ้า ก็ต้องเพิ่มรายจ่ายอีก

นางวินาณ์ เล่าว่า ในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน ลูกและหลานต้องใช้ไฟในการทำการบ้าน ทั้งยังไม่สามารถรีดเสื้อผ้าชุดนักเรียนได้อาศัยเพียงการสะบัดเพื่อให้เสื้อเรียบโดยไม่ใช้เตารีด และหุงข้าวด้วยเตาแก๊ส การใช้ชีวิตหลังฟ้ามืดนั้นอาศัยเพียงไฟฉายคาดหัว โดยใช้ไฟฟ้าจากญาติและเพื่อนบ้านใกล้เคียงในการชาร์จแบตไฟฉาย และชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ ตนรู้สึกสงสารลูกชายแล้วก็หลานสาวอีก 1 คน เดือดร้อนเรื่องไม่มีไฟฟ้าใช้มาประมาณ 8 ปีแล้ว

ทั้งนี้ เคยร้องทุกข์ไปทาง อบต. แต่เขาบอกว่าให้หาทางเอาเอง ซึ่งตนไม่รู้จะหาทางไหนตัดยางเก็บยางได้วันละร้อยกว่าบาท ลูกไปโรงเรียนอีก หลานด้วย ตนไม่รู้จะทำยังไง ตอนนี้ต้องการไฟฟ้าใช้เพราะสงสารลูกเวลาไปโรงเรียนต้องซักผ้า เวลานอนต้องถอดเสื้อให้หมดเพราะว่าอากาศร้อน ส่วนเสื้อผ้าชุดนักเรียนพอซักก็ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มแล้วก็ตากเลยไม่ต้องบิด เพราะไม่มีเตารีด แล้วการบ้านก็ต้องทำให้เสร็จที่โรงเรียนเพราะว่าไม่มีไฟ จึงร้องขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือครอบครัว

สำหรับที่ผ่านมา นอกจาก อบต.สุโสะ แล้วก็มีหน่วยงานในจังหวัดเข้ามา ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ แต่ก็ไม่พูดอะไร ตอนนั้นเขามาดูบ้านแล้วรับปากว่าจะช่วย แล้วก็เงียบหายไป เมื่อก่อนที่นี่เป็นบ้านร้าง ก็เลยมาขออยู่เพราะสามีเสียแล้วก็ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน ก็เลยมาอยู่ที่นี่โดยตนเป็นม่ายมา 10 ปีแล้ว

ขณะที่ เมื่อก่อนพ่วงไฟกับสถานีอนามัย หรือ รพ.สต.สุโสะ พักหลังเขาก็ไม่ให้พ่วงเพราะเขาบอกว่ากลัวมีปัญหา อยากได้ไฟฟ้าจะได้รีดผ้าให้ลูกไปโรงเรียน และลูกจะได้ทำการบ้าน อยากให้หน่วยงานต่างๆ มาช่วยเหลือ บางทีก็นอนร้องไห้เพราะเครียดไม่รู้จะไปพูดกับใคร หลังจากนี้ก็คาดหวังว่าจะได้ไฟฟ้าใช้ จึงขอวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของตน.


ดู 1 ครั้ง0 ความคิดเห็น

コメント


bottom of page