สุดดีใจขอบคุณที่ศาลคืนความสุขให้ หลังถูกสังคมตราหน้าเป็นคนชั่วทั้งตระกูล ด้านทนายเตรียมจ่อฟ้องกลับ ขณะที่พ่อแม่ผู้ตายยังปิดตัวเงียบงดให้สัมภาษณ์สื่อ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดตรัง ได้เปิดบัลลังก์อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ที่ 7137/2561 ในคดีของนายประถมพงษ์ หรือแต๋ม หมื่นบาล อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ถ.ควนขัน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง หลังตกเป็นผู้ต้องหาฆ่า ด.ญ.เกตุมาตุ หรือน้องเพลง รำนา อายุ 11 ปี (ขณะนั้น) ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อการปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 พ.ค.2557 พบศพผู้ตายถูกฆ่ายัดท่อระบายน้ำ เหตุเกิดบริเวณ ถ.สายวัดพระงาม-บ้านควน พื้นที่ ม.7 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง โดยมีพนักงานอัยการจังหวัดตรัง เป็นโจทก์ฟ้อง ซึ่งในวันนี้มีนายสุวัฒน์ รำนา และ นางพนมวรรณ รำนา พ่อแม่ของผู้ตาย และ นายประถมพงษ์ หรือแต๋ม หมื่นบาล ผู้ต้องหา พร้อมด้วย นายสายัณห์ หมื่นบาล พี่ชาย และครอบครัว มาร่วมรับฟังคำพิพากษาของศาลด้วย สืบเนื่องจากคดีนี้ นายประถมพงษ์ หรือแต๋ม หมื่นบาล ได้ถูกศาลชั้นต้นได้พิพากษาตัดสิน กระทำผิดให้รับโทษประหารชีวิต
ต่อมาได้ต่อสู้คดีต่อศาลอุทธรณ์ จนมีคำพิพากษาลดโทษจำคุกตลอดชีวิต กระทั่งมาถึงศาลฎีกา ได้มีคำตัดสินพิพากษายกฟ้อง นายประถมพงษ์ หรือแต๋ม หมื่นบาล ซึ่งทางนายสุวัฒน์ รำนา และ นางพนมวรรณ รำนา พ่อแม่ของผู้ตายซึ่งเป็นโจทย์ร่วมกับอัยการ หลังได้ฟังคำตัดสินแล้วก็ยอมรับและเคารพในคำตัดสินของศาล ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์แต่ถูกปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลใดๆ โดยอ้างว่ายังไม่พร้อมที่จะพูดคุย ขณะที่ นายประถมพงษ์ หรือแต๋ม กล่าวว่า ขอบคุณศาลที่ความคืนความยุติธรรมให้กับตน พิพากษายกฟ้องให้ แสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ และยุติธรรมสำหรับตนแล้ว ครอบครัวเขาก็มีความสุขแล้ว ช่วงที่ถูกจำคุก 4 ปีนั้นรู้สึกเหมือนจะบ้าเลยเคยคิดที่จะทำร้ายตัวเองตอนแต่ ไม่เคยคิดที่จะหนีคดี ตนไม่เคยคิดจะทวงความยุติธรรมด้วยการต่อสู้ ช่วงที่อยู่ในคดีนั้นทางครอบครัวลำบากมาก เป็นหนี้สินเยอะ เพราะต้องหาเงินเพื่อต่อสู้คดี ลูกก็ไม่ได้เรียนไป 2 คน เพราะส่งเสียให้ไม่ทัน และอีก 2 คนนั้นพี่รับเลี้ยงไว้ ในช่วงที่ไปเยี่ยมนั้นก็ต้องนำเงินมาฝากตน ถูกตราหน้าว่าเป็นคนชั่ว คนเลว ของสังคม ในครอบครัวโดนหมด พ่อแม่ พี่น้อง และลูก ซึ่งลูกก็ไม่อยากไปโรงเรียนเพราะถูกเพื่อนล้อ แกล้ง เมื่อศาลคืนความยุติธรรมให้ตนแล้ว อยากให้สังคมคืนความยุติธรรมให้ตนด้วย เพราะคนที่เข้าหาตนที่ไม่รู้ความจริงก็อยากฝากบอกว่าก่อนที่จะฟังข่าวสารอะไร ให้ใช้จิตสำนึกคิดก่อน ข่าวที่ปรากฏออกไป หรือที่เสนอไป ก็ไม่ควรตัดสินว่าคนนั้นไม่ดี บางครั้งก็ไม่ใช่ทุกคน
ด้าน นายสายัน หมื่นบาล พี่ชายแต๋ม กล่าวว่า ทางครอบครัวรู้สึกดีใจมาก เพราะว่ารู้อยู่แล้วว่าน้องของตนไม่ได้ทำตั้งแต่ต้นและรอโอกาสนี้มานานแล้ว ขอบคุณศาลที่ให้ความเมตตากับครอบครัวของตน เมื่อก่อนไปไหนก็ไม่ได้มีแต่คนประณามหยามเหยียด ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเรื่องแบบนี้จะมาเกิดกับครอบครัวเรา อยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ด้วย เพราะทำให้ชื่อเสียงของครอบครัวเสียหาย โดยเฉพาะตำรวจที่เป็นเจ้าของเรื่อง อยากฝากถึงสังคมปัจจุบัน ให้ไตร่ตรองข่าวสารให้ดี ๆ ก่อน โดยเฉพาะการเสพข่าวจากโซเชียล เพราะพอรู้ข่าวแล้วก็มักจะตีความตามข่าว จึงต้องมีการไตร่ตรองและเช็คข่าวให้ละเอียดเสียก่อนนายวิฑูรย์ องอาจ ทนายความส่วนตัวผู้รับทำคดีจำเลย กล่าวว่า เริ่มแรกเราเข้ามาแสวงหาพยานหลักฐาน ซึ่งทางฝั่งเราเจอข้อพิรุธหลายประการว่าคนร้ายเป็นรายอื่นที่ไม่ใช่จำเลยอย่างแน่นอน หลักจากนั้นเราก็ได้ดำเนินการให้การช่วยเหลือและต่อสู่คดีกันมาโดยตลอด ในเรื่องนี้สังคมค่อนข้างชี้นำว่า จำเลยเป็นผู้กระทำความผิดมาโดยตลอด แม้กระทั่งการออกข่าวว่าพบ DNA ของจำเลย หรืออะไรก็แล้วแต่ซึ่ง นำไปสู่การออกหมายจับจำเลยจนทุกคนคิดว่าจำเลยเป็นคนร้าย แล้วก็สิ่งสำคัญคือ คดีนี้เป็นคดีอาชญากรที่กระทำความผิดต่อสังคมวงกว้าง เขาจะมองลักษณะของอาชญากรดังกล่าวให้เกิดความเสื่อมเสียกับสถาบันครอบครัว และทางญาติพี่น้อง นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ตามที่จำเลยได้เล่า บอกว่าตอนลูกไปโรงเรียนก็โดนเพื่อนดูถูกดูแคลนมาโดยตลอด ตนก็เลยอยากจะเรียนต่อสังคมว่า บางอย่างเราอย่าเพิ่งกำหนดว่าจำเลยเป็นคนร้าย ให้รอคำพิพากษาของศาลให้ถึงที่สุดก่อน ว่าผลของคำพิพากษาออกมาอย่างไร เพราะมันก่อให้เกิดความเสียหายมากกับผู้ที่ถูกประณาม หลังจากนี้ก็จะต้องดูข้อมูลและหลักฐานต่างๆ เพื่อตรียมที่จะฟ้องกลับกับผู้ที่มีส่วนทำให้เกิดความเสียหายในครั้งนี้.
Comments