วันนี้ 18 ก.พ. 2562 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง ม.5 ต.นาโยงใต้ อ.เมืองตรัง หลังได้รับแจ้งว่าชาวบ้าน ต.นาโยงใต้ ร้องต่อแขวงทางหลวงตรัง ว่ารากต้นยางนาได้ชอนไชทะลุฝาบ้านจนร้าว ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนหนักมากและไม่ต้องการต้นยางนาแล้ว เพราะประสบปัญหาทุกปี เวลาประชาชนเดือดร้อนก็ไม่มีหน่วยงานไหนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือและแสดงความรับผิดชอบ กระทั่งวันนี้ผู้สื่อข่าวรุดเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พบมีหน่วยงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดตรัง แขวงทางหลวงตรัง และกรมป่าไม้ ได้ลงพื้นที่เพื่อหารือในการหาทางช่วยเหลือชาวบ้านโดยการตัดแต่งกิ่งไม้ของต้นยางนา เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อการโค่นล้มเวลาเกิดลมพัดแรง ส่วนการตัดโค่นต้องขออนุญาตไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย เพราะเป็นไม้หวงห้ามฯ
สอบถาม คุณยายจำเนียร รำนา อายุ 73 ปี ผู้ได้รับความเดือดร้อน อยู่บ้านเลขที่ 58 ม.5 ต.นาโยงใต้ อ.เมือง จ.ตรัง เปิดเผยว่า รากต้นยางนาขนาดใหญ่ ได้ชอนไชเข้ามาในบ้านของตนจนทำให้ผนังบ้านแตกร้าวร้าว ซึ่งตนก็กลัวว่าบ้านจะพังทรุดลงมาหากปล่อยไว้แบบนี้ จึงขอวิงวอนไปยังแขวงทางหลวงตรังเพื่อโค่นต้นยางนา แต่ทางแขวงฯ อ้างว่าต้องทำหนังสือขออนุญาตอีกหลายขั้นตอน ซึ่งตนก็ไม่ค่อยรู้เรื่องและกลัวด้วยไม่กล้าไปพบเจ้าหน้าที่ฯ แต่ถึงตอนนี้ไม่กลัวแล้วเพราะมันจำเป็นจริงๆ และเสี่ยงอันตรายต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
คุณยายจำเนียร เล่าอีกว่า ตนก็ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าทำไมฝาบ้านถึงแตกร้าวมาตลอดเป็นระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งฝาผนังบ้านไม่เคยแตกร้าวมาก่อน เพิ่งจะมาแตกในช่วง 1-2 ปีนี้ ตนสงสัยเหมือนกันว่าทำไมแถวข้างบ้านถึงโค่นต้นไม้ดังกล่าวได้ ในขณะที่บ้านของตนได้รับความเดือดร้อน แต่ทำไมถึงมาโค่นต้นไม้ให้ไม่ได้ วันนี้ต้องขอบคุณทางการไฟฟ้าฯ แขวงทางหลวงตรัง และกรมป่าไม้ฯ ที่ได้เข้ามาตัดแต่งต้นไม้เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน เวลาเกิดกระแสลมพัดแรงจะได้ไม่ต้องหวาดกลัวเสี่ยงอันตราย ถ้าบ้านพังก็ยังสามารถซ่อมได้ แต่ถ้าเป็นชีวิตลูกหลาน ตนเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ซึ่งในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ฯรับปากว่าจะมาทำกำแพงกั้นรากไม้และตัดรากไม้ให้เพื่อไม่ให้รากเข้ามาในบ้านแต่ก็ยังไม่ได้ทำ ในส่วนของการโค่นทิ้งนั้นเขาบอกว่าไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นไม้สงวนฯ.
Comments